ภาวะผู้นำวิถีพุทธ ยุค Post COVID ep 1
ฟังคลิป #Human_Talk
https://youtu.be/rh8DrZsf83M
ก่อนอื่น ต้องเข้าใจคำว่า ‘ตถาคตโพธิสัทธา’
คือ เชื่อมั่นในปัญญาตรัสรู้ของพระตถาคต
เชื่อมั่นว่าพระพุทธเจ้าเป็นพระอรหันต์
เป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เป็นผู้เสด็จไปแล้วด้วยดี
เป็นสารถีฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า
เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
เป็นผู้รู้ เป็นผู้ตื่น เป็นผู้เบิกบาน
เป็นผู้แจกแจงพระธรรมรัตนะ เป็นต้น
ตถาคตโพธิสัทธา คือ เชื่อมั่นในพระสัพพัญญุตญาณ
ปัญญาญาณที่แทงตลอดโลกธาตุทั้งสิ้น
แทงความจริงทะลุ เข้าสู่สัจจะ
นี่คือ พระปัญญาญาณของพระพุทธเจ้า
ไม่มีสิ่งใดปิดบังได้
ผู้ใดห้ามความยิ่งใหญ่ของพระพุทธเจ้าไม่ได้
ผู้ใดจะปิดบังองค์คุณที่ยิ่งใหญ่ก็ไม่ได้
พระพุทธองค์ทรงจุดคบเพลิง ปลุกสัตว์ที่หลับให้ตื่น
นอกจากนี้ ต้องเข้าใจว่า ทำไมพระพุทธเจ้าจึงตรัสเรียกพระองค์ว่า
‘ตถาคต’
ตถาคต บุคคลผู้มาแล้วอย่างนั้น ผู้ไปแล้วเช่นนั้น
มิได้เกิดจากที่ใด และไม่ได้ไปสู่ที่แห่งใดเลย
ตถตา ความเป็นเช่นนั้นเอง คือ ธรรมชาติอันมหัศจรรย์ของสภาพธรรมทั้งปวง
ดอกบัว เกิดจากความเป็นเช่นนั้นเอง พุทธะ เกิดจากความเป็นเช่นนั้นเอง
พระพุทธเจ้าและสภาพธรรมทั้งหลายทั้งปวงก็กลับไปสู่ความเป็นเช่นนั้นเอง
ตถาคต" เป็นคำภาษาอินเดียโบราณ ก่อนสมัยพุทธกาล
แปลว่า "สัตว์ที่มีการเกิดแก่เจ็บตาย"
เมื่อพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้แล้ว จึงลงมาโปรดโดยมิให้ผู้คน
มองว่าสูงส่งจึงเรียกตนว่า ตถาคต หมายความว่า
"เราก็เป็นสัตว์ผู้มีการเกิดแก่เจ็บตายเหมือนกับท่าน
แต่เราก็สามารถตรัสรู้ได้ ท่านก็เป็นตถาคตเหมือนกับเรา
ท่านก็สามารถตรัสรู้บรรลุอรหันต์ได้เช่นกัน"
คำว่า “ตถาคตโพธิสัทธา” จึงมีความหมายว่า
ความเชื่อมั่นในศักยภาพที่จะตรัสรู้ได้ของสัตว์โลก
อีกคำที่ต้องเข้าใจ คือ กัลยาณมิตร
“กัลยาณมิตร” เป็นทั้งหมดของพรหมจรรย์
พระพุทธเจ้า และ ครูอาจารย์ เป็น“กัลยาณมิตร” ของเรา
เชิญติดตาม
Official Line มูลนิธิธรรมดี
https://bit.ly/3y1qfLI